Fan-fiction Percy: Will x nico Spring butterflies - Fan-fiction Percy: Will x nico Spring butterflies นิยาย Fan-fiction Percy: Will x nico Spring butterflies : Dek-D.com - Writer

    Fan-fiction Percy: Will x nico Spring butterflies

    แฟนฟิคเรื่องนี้เกิดจากการระงับอาการคลั่ง วิล x นิโค หลังอ่าน โลหิตแห่งโอลิมปัสจบค่ะ (สปอยล์เต็มไปหมด)

    ผู้เข้าชมรวม

    2,077

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    2.07K

    ความคิดเห็น


    26

    คนติดตาม


    41
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 58 / 13:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เฝ้ามองเสมอ...
    เป็นห่วงเรื่อยมา...
    หวังเพียงพริบตา...
    เธอจะไม่หายไป...





    สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่นจากเรื่องเพอร์ซีย์แจ็กสันนะคะ
    เป็นเรื่องของวิลและนิโคค่ะ มีสปอยล์ในเล่มโลหิตแห่งโอลิมปัสนะคะ

    และที่สำคัญ นี่เป็นฟิค ชายxชาย ค่ะ

    ถ้าเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมแล้ว...
    เราขอเชิญไปพบกับความเพ้อเจ้อของเราได้เลยค่ะ! XD
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Fan-fiction Percy Jackson

      วิล x นิโค

      Spring butterflies

      คำเตือน : มีสปอยล์โลหิตแห่งโอลิมปัสค่ะ

      Rate PG

       

      I

      วิล


       

                      วิลไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไรกับภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าดี ใจหนึ่งเขาดีใจ แต่อีกใจกลับหงุดหงิดเหลือเกิน นิโค ดิแองเจโล... เด็กหนุ่มมืดมนผู้ ‘เคยหวาดกลัว ที่จะสนิทใจกับใคร บัดนี้เขากำลังยิ้ม... วิลไม่แน่ใจว่านั่นเป็นรอยยิ้มแรกของนิโคหรือตัวเขาเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้ง แรกกันแน่ อย่างไรก็ตาม... เขาภาวนาให้เป็นอย่างแรก

       

                      คราแรกคือความแปลกแยกที่ดึงดูดให้เขาต้องมองตาม นิโค ดิแองเจโลเป็นเด็กหนุ่มผู้มีบรรยากาศซึ่งเขาไม่คุ้นเคย นิโคดูแปลกแยก... ราวกับเขาได้สร้างโลกที่มีเพียงตัวเองคนเดียวที่เข้าไปได้เป็นกำแพงขวางทุก คนไม่ให้เข้าใกล้ นั่นเป็นความประทับใจแรกที่เขามีต่อเด็กหนุ่มผู้นี้

       

                      คราต่อมาคือความเศร้าสร้อยที่ปรากฏในดวงตา ชาวค่ายกำลังสนุกสนาน ฉลองชัยชนะแรกที่มีต่อสมุนของเทพีแห่งผืนพิภพ เงามืดของเด็กหนุ่มกลับอยู่ห่างไกลออกไป วิลจำได้อย่างแม่นยำว่านิโคคือหนึ่งในผู้ที่ทำให้พวกเขาชนะโดยสมบูรณ์ แต่เจ้าตัวกลับดูเศร้าสร้อย... ราวกับว่าทุกคนได้ลืมเลือนเขาไปแล้ว วิลอยากจะเดินเข้าไป แต่เพียงขยับขา นิโคก็หายไป...

       

                      หลังจากนั้นวิลก็แทบจะไม่มีโอกาสได้พบนิโคอีกเลย ข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเด็กหนุ่มลอยมาเข้าหูของเขาเสมอ มากมายจนเหมือนกับว่าวิลได้รู้จักกับนิโคจริงๆทั้งที่ไม่เคยได้คุยกันเลยสัก ครั้ง...

       

                 บุตรแห่งฮาเดสผู้เสียพี่สาวไปเพราะสงคราม
       

      บุตรแห่งฮาเดสผู้ไม่เคยอยู่ที่ใดนานพอที่จะทำความรู้จักกับใครลึกซึ้ง

       

      บุตรแห่งฮาเดสผู้โดดเดี่ยวและเงียบขรึม

       

      บุตรแห่งฮาเดสผู้ที่ไม่มีใครรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

       

      บุตรแห่งฮาเดสผู้ฉายความเศร้าในดวงตาเสมอ

       

      บุตรแห่งฮาเดสผู้ที่ดึงดูดสายตาของวิลให้ต้องมองตาทุกครั้งที่ปรากฏกายออกมาจากเงามืด

       

      วิ ลไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านิโครับรู้ว่ามีตัวคนอยู่บนโลกนี้ด้วยหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่วิลแน่ใจ... เขาอยากรู้จักนิโค ดิแองเจโล อยากพูดคุย อยากทำให้ความเศร้าและกำแพงนั้นหายไปให้หมด

       

      วิ ลเฝ้ารอ นิโคกลับมาที่ค่ายน้อยมากและวิลไม่รู้วิธีที่จะติดต่อกับนิโคได้ ถ้าใช้ข้อความไอริช ถึงต่อให้ติดต่อนิโคได้ เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มบทสนทนาเช่นไรดีเหมือนกัน


      ถ้านิโคอยู่ ที่บ้านพ่อ เขาควรจะพูดว่า “เฮ้ ไง ฉันวิล โซเลซ ยินดีที่ได้รู้จักนะ นรกดูดีไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย” แบบนี้หรือ? เขาว่ามันคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ยิ่งถ้าฮาเดสผ่านมาเห็นเขากำลังจีบลูกชายของตนอยู่ (เอ่อ... ก็คล้ายๆอย่างนั้นล่ะนะ) เขาคงได้ไปพบฮาเดสเร็วกว่าที่ควรเป็นแน่


       

      วิ ลใช้เวลาที่ค่ายหาอะไรทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดถึง เรื่องบุตรแห่งฮาเดสมากนัก (ซึ่งไม่ยากเลย เฮ้ เรากำลังจะมีสงครามกับพวกโรมันนะ ว่างสิถึงจะแปลก) วิลเกือบจะตัดใจเรื่องนิโคไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรือเหล่านางฟ้าเห็นใจวิลกันแน่... วิลได้พบกับนิโคอีกครั้งจนได้...

       

      แม้ จะเป็นการได้พบกันท่ามกลางสถาณการณ์ตึงเครียดของสงครามก็ไม่เป็นไร วิลได้ใกล้ชิดกับนิโคมากขึ้น ได้สัมผัสแล้วว่านิโคบริสุทธิ์เพียงใด วิลไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กที่ใสซื่อและบริสุทธิ์ขนาดนี้ถึงต้องขังตัวเองอยู่ ในโลกสีดำมืดและสร้างกำแพงเพื่อไม่ให้มีใครเข้าไปได้

       

      และเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน... ทำไมถึงต้องสนใจนิโค ดิแองเจโลถึงขนาดนั้น? ยิ่งสัมผัสได้ว่านิโคกำลังจะหายไปเขาก็ยิ่งกลัว

       

      ถ้าทำได้วิลก็อยากจะขังนิโคเอาไว้ในห้องพยาบาลซะ ขังไว้เพื่อที่นิโคจะได้ไม่ออกไปร่วมสงครามและทำเพื่อคนอื่นมากมายอีก

       

      หาก ในความเป็นจริงวิลกลับทำได้เพียงมองอยู่ห่างๆ ส่งคำภาวนาต่อเทพองค์ใดก็ตามที่จะทำให้เขาได้เจอนิโคอีกครั้งหลังจากที่ ทุกอย่างจบลง วิลไม่สนใจด้วยซ้ำว่าการตายอ็อกเทเวียนเกี่ยวพันกับการตัดสินใจของนิโค วิลข้ามขั้นจากความสนใจไปเป็นความรู้สึกอื่นแล้ว (และอีกเหตุผลคือวิลเกลียดอ็อกเทเวียนอยู่แล้ว)

       

      คำ ขอของวิลเป็นจริง... นิโคนั่งอยู่ตรงนั้น... บนโต๊ะของฮาเดสที่ว่างเปล่ามาเนิ่นนาน วิลอยากจะเข้าไปทัก แต่หน้าที่รักษาอาการบาดเจ็บของชาวค่ายและเพื่อนชาวโรมันก็ทำให้เขาไม่อาจ ปลีกตัวไปได้แม้แต่วินาทีเดียว วิลพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อส่งสายตาเป็นคำพูดให้นิโคมาหาเขาบ้าง ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูจะอ่านไม่ออก และยิ่งถอยห่างจากเขามากขึ้นไปอีก

       

      วิลหงุดหงิดขึ้นทุกนาที นิโคคล้ายกับจะหลบหน้าเขาเสียด้วยซ้ำ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!? วิลหงุดหงิดจนแทบจะเผลอเฉือนเนื้อเพื่อนร่วมค่ายทิ้ง นั่นทำให้หน่อยพยาบาลคนอื่นๆพร้อมใจกันไล่เขาออกไปพักผ่อนซะ

       

      แต่ วิลไม่ได้เหนื่อย เขาไม่จำเป็นต้องพักผ่อน ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไปเดินวนเวียนแถวบ้านฮาเดส ภาพที่เห็นทำให้วิลไม่ชอบใจเท่าใดนัก เมื่อวานก็แม่ทัพสาวของชาวโรมัน วันนี้ก็หนุ่มผมทองชาวโรมันอย่างนั้นหรอ? ทั้งที่เขาได้แค่จับแค่แตะตัวนิโคไว้ตอนที่อีกฝ่ายเผลอ แต่คนอื่นกลับได้ ‘กอด เนี่ยนะ!

       

      วิ ลกำหมัดแน่น ถึงจะไม่ชอบใจแค่ไหนแต่เขาก็ไม่ได้มีสิทธิ์อะไรเหนือกว่าขนาดที่จะไปบังคับ อีกฝ่ายได้ แค่ห้ามไม่ให้นิโคใช้เวทมนตร์จากนรกใต้พิภพนั่นอีกได้ก็เต็มกลืนแล้ว

       

      กว่า ที่เจ้าหนุ่มโรมันจะปล่อยบุตรแห่งฮาเดสออกจากอ้อมแขนได้วิลก็แทบจะหาอะไรมา ปาหัวแล้ว โชคดีที่นิโคเหลือบเห็นเขาจนได้ เขาทำสัญญาณให้เด็กหนุ่มมาหาเพราะไม่อยากจะปรากฏตัวให้ชาวโรมันคนนั้นรู้ เท่าใดนัก ซึ่งคราวนี้นิโคว่าง่ายกว่าที่เขาคิด เด็กหนุ่มหันไปพูดบางอย่างกับเพื่อนชาวโรมันก่อนจะก้าวฉับๆมาหาเขาที่ยืน อยู่ใต้ต้นไม้ทันที

       

      “ตกลง นายหายไปไหนมา” วิลเอ่ยประโยคแรกเป็นประโนคคำถามที่เขาคาใจที่สุดตั้งแต่สงครามจบลงออกไป นิโคดูจะชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะขมวดคิ้วกลับมาให้เขา

       

      “นายหมายความว่าไง” นิโคถามกลับ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ เป็นใครมาเจอประโยคนี้ทันทีที่เจอหน้ากันก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา

       

      “ฉัน ติดแหง็กอยู่ในห้องพยาบาลมาแบบว่าสองวันเห็นจะได้ นายไม่มีแวะมาเยี่ยมเลย ไม่มีเสนอตัวมาช่วยอีกต่างหาก” วิลเอ่ยประโยคคล้ายจะตัดพ้อที่ทำให้นิโคถลึงตาใส่เขา

       

      “ฉัน... อะไรนะ แล้วนายจะเอาบุตรแห่งฮาเดสไปทำอะไรในห้องที่มีแต่คนป่วยรอรับการรักษาล่ะ ใครจะไปอยากได้แบบนั้นกัน” วิลรู้สึกว่าที่นิโคพูดมันก็มีเหตุผลอยู่นิดหน่อย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นของเขาแน่

       

      “แล้วนายจะมาช่วยเพื่อนหน่อยไม่ได้เลยรึ เอาแค่ตัดผ้าพันแผลหรือหยิบขนมหยิบน้ำมาฝากอะไรแบบนี้น่ะ แค่ทักทายว่าเป็นไงบ้างวิลก็ ยังดี นายไม่คิดว่าฉันอยากจะเจอคนหน้าคุ้นเคยสักหน่อยรึไง” วิลเอ่ยประโยคกำกวมที่หวังจะให้อีกฝ่ายเข้าใจ แต่นิโคกลับทำตาโตกลับมาเสียอย่างนั้น

       

      “อะไร นะ... หน้าฉันเนี่ยนะ” วิลเห็นนิโคเกือบจะยกมือจับหน้าตัวเองอยู่แล้วแต่ก็หยุดตัวเองไว้ได้ก่อน ท่าทางแบบนั้นน่ารักจนวิลแทบจะลืมความไม่พอใจที่สั่งสมมาตลอดไปเสียหมด

       

      “นาย นี่หัวทึบชะมัด” วิลส่ายหัวกับตัวเอง ทั้งปลงกับตัวเองที่มาสนใจคนหัวช้าแบบนี้เข้า ทั้งขำนิโคที่ใสซื่อขนาดนี้ นี่ถ้าเขาไปพูดกับเด็กบ้านอะโฟรไดต์พวกเธอคงจะกรี๊ดกันไปแล้ว

       

      “ฉัน หวังว่านายคงล้มเลิกความตั้งใจบ้าๆที่จะทิ้งค่ายฮาล์ฟบลัดไปแล้วนะ” เขาเบี่ยงหัวข้อไปยังแผนระยะยาวแทน ถ้านิโคตอบว่ายังจะไปจากที่นี่เขาคงต้องทำอะไรรุนแรง

       

      “ฉัน... ใช่ ฉันเอาแบบนั้น คือหมายถึงฉันจะอยู่ต่อน่ะ” แต่ดีแล้วที่นิโคไม่ไป เขาไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็นเพราะตัวเขา แต่มันก็อดที่จะรู้สึกดีใจไม่ได้ นิโคยังอยู่ที่นี่... เขายังมีโอกาสใกล้ชิดกับเด็กคนนี้อีกมากมาย

       

      “ดี สรุปคือนายหัวทึบนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับโง่นะ” วิลพูดทั้งรอยยิ้ม พออารมณ์ดีแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งยั่วให้นิโคโมโหอยู่เรื่อย

       

      “นายกล้า ดียังไงมาพูดกับฉับแบบนี้ ไม่รู้หรอว่าฉันสามารถเรียกซอมบี้หรือโครงกระดูกหรือ...” ให้ตายสิ เขาเคยบอกไปว่าห้าม ทำไมถึงได้ดื้อแบบนี้นะ?

       

      “ตอน นี้นายเรียกกระดูกไก่ขึ้นมายังไม่ได้เลย ไม่งั้นร่างได้ละลายกลายเป็นเงามืดหย่อมนึงแน่ดิแองเจโล” วิลขู่นิโค ใช่ ขู่ แต่มันก็มีโอกาสที่จะเป็นแบบนั้นได้นี่นา ดังนั้นนี่เป็นคำขู่ที่ส่งไปพร้อมความห่วงใยต่างหาก วิลไม่อยากเห็นนิโคหายไปแบบไม่มีวันกลับหรอกนะ

       

      “ฉันบอกแล้วไง ห้ามทำอะไรแบบนรกใต้พิภพอีก คำสั่งหมอเลยนะ และนายติดหนี้ต้องมาอยู่ห้องพยาบาลกับฉันสามวันเป็นอย่างต่ำ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย” วิลกลัวว่านิโคจะคิดอะไรไม่ดีขึ้นมาได้เลยต้องชิงพูดประโยคคำสั่งออกมาก่อนเสียเลย

       

      “สามวันเหรอ ฉัน... ฉันว่าก็น่าจะโอเคนะ” นิโคชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะอ้อมแอ้มตอบคำที่ทำให้วิลรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วหัวใจกลับมา

       

      “ดีมาก งั้นตอนนี้...” วิลกำลังหาวิธีมัดนิโคไว้กับตัวเองให้ได้มากที่สุด แต่เหมือนตอนนี้จะยังไม่ถึงเวลา 

       

      ฮ่า!

       

      เสียง ที่ดังขึ้นท่ามกลางความสงบเงียบของเนินเขาดึงความสนใจของนิโคไปได้ทันที วิลถอนหายใจออกมานิดหน่อยเมื่อโดนขัดจังหวะ ไม่ต้องใช้ความเป็นบุตรแห่งอพอลโล เมื่อเห็นแววตาคล้ายกับตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว วิลก็รู้ทันทีว่านิโคคงจะมีเรื่องที่ต้องพูดกับเจ้าของเสียงดังเมื่อครู่

       

      “เดี๋ยว ฉันกลับมานะ สัญญากับแม่น้ำสติกซ์และแม่น้ำทุกสายเลย” แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ วิลยืนมองนิโคที่มุ่งไปยังต้นเสียง ทุกย่างก้าวมั่นคง เขาคงไม่ต้องกังวลอะไร...

       

      นิโค พูดอะไรบางอย่างกับเพอร์ซีย์และแอนนาเบ็ธ วิลเห็นเพอร์ซีย์นิ่งค้างไป ส่วนแอนนาเบ็ธฉีกยิ้มกว้าง คงจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเพอร์ซีย์ วิลเคยเห็นสายตาที่นิโคมองเพอร์ซีย์... วิลไม่รู้ว่าคนที่ตัวเองกำลังมองอยู่พูดอะไร เขาหวังแค่นิโคจะไม่กลับมาหาเขาพร้อมข่าวร้าย...



       

      II

      นิโค


       

      นิโค เดินกลับมาทันที่จะเห็นวิล โซเลซทำสีหน้ากังวล เขาสงสัยว่าวิลกำลังกังวลเรื่องอะไร แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะเอ่ยปากถามออกไปจึงทำเพียงแค่เดินไปหยุดตรงหน้าให้อีก ฝ่ายรับรู้ว่าตัวเองกลับมาแล้ว

       

      วิลละสายตาจากความว่างเปล่ามาหยุดที่นิโคทันที มือใหญ่คว้าเอาข้อมือของเขาไปพร้อมกับออกเดินโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งนั้น

       

      “นี่! นายจะลากฉันไปไหน! ฉันเดินเองได้น่า!” นิโคพยายามดึงมือตัวเองกลับ เสียก็แต่อีกฝ่ายไม่ได้มีทีท่าว่าจะยอมปล่อยเลยแม้แต่นิด วิลยังคงลากเขาเดินไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจทั้งเสียงของเขา และเสียงของคนรอบข้างที่มองมาอย่างสนใจใคร่รู้

       

      “นาย ไปหาที่นั่งซะ” วิลยอมปล่อยมือจากเขาในที่สุดเมื่อพวกเขามาถึงห้องพยาบาลแล้ว นิโคกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวเขาทั้งเข้าและไม่เข้ากับสถานที่นี้แบบแปลกๆ เขารับรู้ความตายของคนอื่นได้ แต่เขาไม่ได้อยากรับรู้มันเสียหน่อย ถ้าเขาเกิดรับรู้ถึงความตายของชาวค่ายคนใดสักคนในนี้ขึ้นมาได้ล่ะ? อา เขาไม่ค่อยอยากจะรู้เท่าไหร่เลย

       

      “ที่ นี่ไม่มีใครตายหรอก ดื่มน้ำซะ นายดูแย่กว่าพวกที่นอนบนเตียงซะอีก เฮ้อ นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดที่เอานายมาด้วยเนี่ย” วิลส่งน้ำมาให้เขาก่อนจะทำหน้าเหนื่อยใจ นิโคยิ่งรู้สึกอึดอัดกว่าเดิม เขาไม่ชอบสถาณการณ์แบบนี้เลย

       

      “งั้นฉันไป...”

       

      “ไม่ ได้ นี่เป็นคำสั่งหมอนะ นายต้องอยู่ที่นี่” วิลขัดเขาก่อนที่เขาจะพูดจบ นิโคไม่แน่ใจนักว่าคำสั่งหมอมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เขาต้องอยู่ที่นี่ แต่พอคิดว่าอาจเป็นเพราะเขามีโอกาสจะเลือนหายไปได้ตลอดเวลาก็พอจะเข้าใจได้ วิลเป็นคนดีเกินกว่าที่จะปล่อยให้เขาหายไปล่ะมั้ง

       

       

      นิโค ใช้เวลาทั้งวันในห้องพยาบาลไปกับการโดนวิลใช้งานสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหยิบขวดยา (ซึ่งเอาเข้าจริงเขาก็ไม่รู้ว่าบางขวดมันคืออะไรด้วยซ้ำไป) ช่วยพันผ้าพันแผล หรือกระทั่งหยิบขนมให้คนที่เรียกตัวเองว่าหมอ นิโคยุ่งตอดทั้งวันกับคำสั่งเอาแต่ใจที่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นเขาที่ทำ กว่าจะหมดวันเขาก็แทบอยากจะออกไปจากที่นี่ไวๆแล้วไม่กลับมาอีก

       

      แต่ วิลดูเหมือนจะชินกับเรื่องแบบนี้หรือไม่ก็ได้แกล้งนิโคจนพอใจแล้ว เขาถึงได้มีสีหน้าสดชื่นแจ่มใสเหมือนเดิม นิตัดสินใจว่าไม่ยุ่งกับวิลจะดีกว่า เขาเดินไปทางบ้านพัก แต่ยังไม่ทันก้าวขาเสียงของวิลก็เรียกเขาเอาไว้อีก

       

      “นั่น นายคิดจะไปไหน” นิโคอยากจะเรียกโครงกระดูกขึ้นมาซัดวิลเหลือเกิน เขามองวิลอย่างเฉยชา ไอ้ความรู้สึกปั่นป่วนเมื่อตอนสายดูเหมือนจะเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น ล่ะมั้ง เขาไม่มีทางมาชอบผู้ชายน่ารำคาญแบบนี้แน่

       

      “ไปให้ห่างจากนายไง!” นิโคโพล่งออกไปแล้วก็ต้องแปลกใจตัวเอง เขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน วิลเหมือนจะอึ้งไปนิดหน่อย แต่พริบตาเดียวเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเสียอีก นิโคควรจะไปบอกคนในห้องพยาบาลว่าวิลเป็นคนบ้าไหม?

       

      “นาย แบบนี้ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย ในฐานะหมอ ฉันควรจะบอกว่านี่เป็นพัฒนาการที่ดีนะ” นิโคเหนื่อยที่จะโมโหวิลแล้ว เขาไม่เข้าใจเลยว่าคนแบบนี้โตขึ้นมาแบบไหนกัน คนที่เลี้ยงเขามาไม่เคยสอนให้กวนประสาทน้อยกว่านี้หรือไง?

       

      “นาย หิวรึยัง? ฉันหิวจนแทบจะกินไกอาได้แล้ว เราไปหาอะไรลงท้องกันไหม จะได้ไม่ต้องไปขุดดินมากินน่ะ” นิโคเกือบจะขำกับมุกตลกพิลึกของวิลแล้ว แต่เขาก็ยั้งตัวเองไว้ได้ทัน วิลยักไหล่เล็กน้อยคล้ายจะบอกว่าไม่ต้องตอบก็ได้


      มือที่ อุณหภูมิสูงกว่าเขาอยู่เยอะจับเข้าที่ข้อมือของนิโคและออกแรงลากเขาไปอีก แล้ว นิโคสงสัยว่าลึกๆแล้ววิลต้องเป็นคนที่เผด็จการมากแน่ ตั้งแต่เจอกันมาก็บังคับเขาตลอดแบบนี้ เขาควรจะรีบเลิกคบและตัดสัมพันธ์ทุกอย่างกับวิล โซเลซคนนี้เลยดีไหมนะ?


       

      “คิด อะไรของนายอยู่ รีบกินได้แล้ว นายต้องกินให้เยอะนะรู้ไหม นายผอมเกินไปแล้ว” นิโคก้มลงมองตัวเอง เขาผอมเกินไปหรอ? เพิ่งจะมีวิลคนแรกนี่ล่ะที่พูดแบบนี้ ในท้องปั่นป่วนไปด้วยผีเสื้อโครงกระดูกอีกครั้ง ตั้งแต่เสียเบียงก้าไปก็ไม่เคยมีใครใส่ใจในตัวเขามากเท่านี้เลย

       

      “อืม” นิโคส่งเสียงในลำคอตอบไปเท่านั้นก่อนจะเริ่มตักอาหารตรงหน้าเข้าปาก อันที่จริงเขาอยากจะบอกให้วิล โซเลซกลับไปนั่งที่โต๊ะบ้านอะพอลโลซะเพราะการที่เขามานั่งที่โต๊ะของบ้านฮา เดสมันทำให้สายตาของชาวค่ายมองมาเสียจนนิโคอึดอัดไปหมดแล้ว

       

      “นาย คงไม่ได้จะไล่ฉันกลับโต๊ะบ้านอะพอลโลนะ โต๊ะนั้นคนเยอะแล้ว ฉันเหนื่อยมาทั้งวันก็อยากจะนั่งสบายๆไม่ต้องเบียดกับใครบ้างสิ” แค่นั้นนิโคก็ไม่กล้าเอ่ยปากไล่วิลแล้ว เขาตักอาหารเข้าปาก เลือกที่จะไม่สนใจคนร่วมโต๊ะอีก เฮเซลกลับไปที่ค่ายโรมันแล้ว การมีเพื่อนนั่งด้วยมันก็ดีเหมือนกันล่ะมั้ง

       

      “นี่ ฉันมีเรื่องอยากพูดกับนายหน่อย วันนี้ฉันไปบ้านฮาเดสได้ไหม?” คำพูดของวิลทำให้นิโคต้องมองเขาด้วยความสงสัย

       

      “แล้ว ทำไมถึงคุยตรงนี้ไม่ได้ล่ะ?” นิโคขมวดคิ้วมุ่นมองคนที่ขอจะรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขาอย่างง่าย ดาย วิโน้มตัวมากระซิบคำตอบกับเขา ใกล้เสียจนนิโครู้สึกว่าอุณหูมิร่างกายเพิ่มสูงขึ้นกะทันหัน

       

      “เพราะ มันเป็นเรื่องที่ฉันอยากจะคุยกับนายตามลำพัง” นิโคมองวิลที่กำลังทำหน้าจริงจัง จะว่าไปนี่เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่วิลทำสีหน้าแบบนี้ใส่นิโค ปกติวิลจะชอบพูดจากวนประสาทให้เขาโมโหเสียมากกว่า สงสัยว่าเรื่องที่วิลจะพูดนี่คงจะสำคัญมากจริงๆ


      นิโคพยักหน้า เป็นอันตกลง หลังจากนั้นเขาก็มุ่งความสนใจไปที่อาหารตรงหน้าแทน แม้จะอึดอัดกับสายตาของหลายๆคนที่พุ่งตรงมาบ้างแต่เขาก็เริ่มจะชินชากับมัน แล้วจึงกินอาหารต่อได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร

       

       

      จวบ จนมือค่ำจบลงวิลก็ออกแรงลากเขาไปที่บ้านพักของนิโคเอง นิโคไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมวิลต้องลากเขาไปด้วย อย่างไรเสียเขาก็ต้องกลับบ้านพักอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลที่เขาจะหนีวิลเสียหน่อย

       

      “เอา ล่ะ คือว่านะ...” เมื่อพวกขึามาถึงเฉลียงหน้าบ้านวิลก็ส่งเสียงเกริ่นเรื่องออกมา นิโคหันไปมองเขา เพราะรอบด้านมืดไปหน่อยแล้ววิลก็ก้มหน้าลงนิดหน่อยด้วยนิโคจึงอ่านสีหน้าของ เขาไม่ออก คาดเดาไม่ได้เลยว่าวิลตั้งใจจะพูดเรื่องอะไรกันแน่

       

      “ฉัน คิดว่าฉันอาจจะชอบนายเข้าแล้วล่ะดิแองเจโล” หลังจากเงียบไปสักพักวิลด็เงยหน้าขึ้นและพูดประโยคที่โจมตีให้นิโคแข็งทื่อ ราวกับจ้องตากับเมดูซ่าอยู่

       

      “ฉัน รู้ว่ามันแปลก แล้วก็ไม่ได้จะเร่งรัดหรืออะไรกับนายด้วย” วิลรีบพูดต่อเมื่อเห็นนิโคไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับให้เขาเลย “ก็แค่อยากให้นายรู้ไว้” วิลหันหลังกลับเมื่อไม่เห็นนิโคโต้ตอบอะไรกลับ แต่การขยับตัวนั้นกลับทำให้นิโคฉุดตัวเองออกมาจากความคิดที่จมอยู่ได้ มือเย็นคว้าแขนของบุตรแห่งอะพอลโลเอาไว้ก่อนจะละล่ำละลักพูด

       

      “ไม่ คือ ขอบคุณ ฉัน ฉันไม่รู้ คือ” นิโคพูดได้แค่นั้นแล้วก็รู้สึกหมดหวังกับตัวเอง ทำไมเขาถึงต้องคิดอะไรมากมายจนสื่อสารสิ่งที่รู้สึกออกไปไม่ได้กัน

       

      “ตกลงตามนี้!” จู่ๆวิลก็โพล่งขึ้นมา นิโคเงยหน้าขึ้นมองวิล โซเลซที่กำลังยิ้มกว้าง สว่างไสวสมกับเป็นบุตรแห่งดวงอาทิตย์

       

      “อะไร”

       

      “ต่อ จากนี้ไปนายเป็นของฉัน ห้ามทำอะไรโดยที่ฉันไม่อนุญาต ห้ามไปไหนไกลจากสายตาฉัน ห้ามมีคนอื่นนอกจากฉันอีก ตรงนี้ของนายเป็นของฉันแล้ว ดิแองเจโล” วิลเอานิ้วจิ้มลงที่อกข้างซ้ายของนิโคด้วยแรงที่ไม่มากพอให้เจ็บแต่ก็หนัก แน่นราวกับจะย้ำคำพูดของตัวเองที่ทำให้นิโครู้สึกร้อนไปทั้งตัว อา ผีเสื้อโครงกระดูกบินอยู่ทั่วท้องของเขาอีกแล้ว

       

      “อ้อ อีกเรื่องนะ อย่าให้ใครมาแตะต้องตัวนายอีกเลยนะ ฉันไม่ชอบแบบนั้นเลย” นิโคมองวิลที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดประกอบคำพัดแล้วก็รู้สึกมุมปากกระตุก คันยุบยิบไปทั้งหัวใจ เขามองหน้าวิลท่ามกลางความมืด

       

      นิโค ขยับไปใกล้วิลที่ดูจะไม่ทันได้สังเกตว่าเขาเข้าไปใกล้จนแทบชิดแล้ว เขาเขย่งปลายเท้า แนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของอีกฝ่ายแผ่วเบา ก่อนจะรีบหายตัวเข้าไปหลังบานประตูแล้วลงกลอนแน่นหนาทันที

       

      บุตร แห่งฮาเดสยกมือขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้ายเอาไว้ มันเต้นรัวและพองโตเสียจนเขารู้สึกเหมือนจะบินได้ ทั้งหมดนี่ก็เพราะผู้ชายคนนี้... วิล โซเลซ

       

      อา... นิโครู้สึกเหมือนฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่นและสว่างไสวกำลังจะมาเยือนเขาแล้ว...

       

      -------------------------------

       

      The End

      (for now...)


       

      สวัสดีค่ะทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่านฟิคที่เกิดจากความเพ้อเจ้อของเราล้วนๆเลยนะคะ

      ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ให้ความสนใจเข้ามาอ่าน พูดถึงที่มาของฟิคเรื่องนี้

      จริงๆเรารักนิโคค่ะ รักมาก ตอนอ่านนี่อยากให้นิโคมีความสุข ถึงขนาดอยากให้นิโคชอบกับเรย์น่า

      (แน่นอนว่าตอนนั้นเรายังไม่เจอวิลค่ะ) ตอนหลังก็อยากให้คู่กับเจสัน เพราะเจสันชอบทำอะไรสื่อความ

      หมาย(?) (ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่เจอวิลเช่นกันค่ะ)ในความรู้สึกของเรา นิโคเป็นด็กน้อยที่ชีวิตรันทดมากถึง

      ขนาดที่สถานการณ์ทุกอย่างบังคับให้นิโคต้องโตขึ้นมาเองทั้งที่อายุยังน้อย นิโคไม่เชื่อใจใคร

      ไม่อยากสนิทใจกับใครเพราะกลัวการสูญเสีย


      แต่วิลนี่เป็นคนที่แทบจะตรงข้ามกับนิโคทุกอย่าง(ยกเว้นว่าเป็นผู้ชายเหมือนกัน อันนี้ไม่ตรงข้ามค่ะ

      55555) เรามโนเอาว่าวิลสนใจนิโคมานานแล้วเพราะทั้งคู่ดูต่างกันมาก สนใจไปสนใจมาก็เกิดเป็น

      ความชอบและอยากผูกมัดค่ะ (?)


                 ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าอ่านแล้วรู้สึกชอบสักนิดคนเขียนก็จะดีใจมากๆเลยล่ะค่ะ แต่ถ้าอ่านแล้วรู้สึก

      ว่ายังไม่ดี มีตรงไหนยังไม่เหมาะก็ทิ้งคอมเม้นต์ไว้ได้เลยนะคะ ถ้าอารมณ์บ้าคู่นี้มากๆยังอยู่ก็น่าจะ

      มีเรื่องต่อไปอีกค่ะ 555555


                  ขอขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาอ่านนะคะ ><


      ปล. ด้วยความบ้าขนาดไปหาคู่นี้จากกูเกิ้ลค่ะ รูปนี้น่ารักมากกกกกก คุณหมอวิลทำอะไรคะ

      แอร๊ยยยย >////////<



      ที่มา: http://a.wattpad.com/cover/31079055-256-k469117.jpg

       

      แนะนำให้ทุกท่านเข้ากูเกิ้ลและพิมพ์คำว่า Will x nico ลงไปนะคะ 55555

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×